วิตามินซีคือหนึ่งวิตามินที่เรามักจะเห็นได้บ่อยตามท้องตลาด โดยมากจะเรียกย่อ ๆ ว่า Vit-C ใครที่เป็นหวัดบ่อย นี่สัญญาณเตือนเลยก็คือคุณกำลังขาดวิตามินซี รีบรับประทานอย่างเร่งด่วน ฉะนั้นวันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักเจ้าวิตามินชนิดนี้กันอย่างลึกซึ้งเลย
ทำไมต้องเป็นวิตามินซี
วิตามินซีเป็นวิตามินที่ใครๆก็คุ้นหน้าคุ้นตามีชื่อเรียกอีกอย่างว่า “กรดแอสคอร์บิก” จัดเป็นวิตามินชนิดที่ละลายในน้ำ นั่นหมายความว่าหากเรารับประทานเข้าไป ก็จะสามารถละลายและถูกดูดซึมไปใช้ได้เลย ร่างกายของเราไม่สามารถสังเคราะห์ขึ้นมาเองได้ ฉะนั้นเราต้องหารับประทานเองภายนอก จากผัก เช่น พริกหวาน ที่มีวิตามินซี 80.4 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม และบล็อกโคลีที่มีวิตามินซีสูงมากถึง 89.2 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม และจากผลไม้ เช่น ผลไม้ตระกูลส้มที่มีวิตามินซี 53.2 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม ยิ่งไปกว่านั้นมะขามป้อมบ้าน ๆ ที่เรารู้จักกันมีวิตามินเป็นองค์ประกอบสูงกว่าผักและผลไม้ชนิดอื่น ๆ ซึ่งสูงมากถึง 276 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม แต่เนื่องจากวิถีชีวิตของคนเปลี่ยนไป การพึ่งวิตามินซีจากธรรมชาติไม่ค่อยจะเพียงพอนัก จึงได้ถือกำเนิดอาหารเสริมวิตามินขึ้นมา วิธีการง่าย ๆ เลยก็คือสกัดวิตามินชนิดนั้น ๆ อย่างเข้มข้นแล้วเอามารวมไว้ในแคปซูลเดียว วิธีการรับประทานก็มีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นแบบเม็ด แบบลูกอม แบบผง หรือแบบเม็ดฟู่ละลายน้ำ
ถึงแม้ว่าการได้รับวิตามินซีจากธรรมชาติจะดูเหมือนเป็นเรื่องง่ายแต่น่าเสียดายที่วิตามินซีเป็นสารประกอบที่สลายตัวได้ง่ายด้วยความร้อนและอากาศแม้แต่กระทั่งความเย็นจากการถนอมอาหารก็อาจจะทำให้วิตามินสูญเสียสภาพไปได้ก็จริงอยู่ถ้าเรารับประทานผักผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงปี๊ดประโยชน์ก็จะหายไปหากเราเอาวัตถุดิบเหล่านั้นไปแช่เยือกแข็งอัดแก๊สด้วยสุญญากาศตั้งทิ้งไว้ภายนอกหรือต้มด้วยความร้อนสูงซึ่งสารอาหารที่เราจะได้ก็จะมีแต่ไฟเบอร์เท่านั้นพวกวิตามินซีและวิตามินอื่นๆแทบจะไม่เหลือให้เราได้รับประทานเลยสิ่งเหล่านี้เรียกได้ว่าเป็นข้อจำกัดในการรับประทานเลยทีเดียวฉะนั้นพวกนักโภชนาการหรือนักวิทยาศาสตร์อาหารจึงแนะนำว่าหากต้องการให้ได้รับวิตามินซีจากธรรมชาติมากที่สุดก็ควรที่จะกินผักหรือผลไม้สดๆไปเลยแต่ก็ต้องไประวังเรื่องสารปนเปื้อนอีกด้วย
ความต้องการวิตามินซีของมนุษย์
ความต้องการวิตามินซีไม่ได้จำกัดในวงอายุวิตามินซีเป็นตัวกระตุ้นชั้นยอดให้กับระบบภูมิคุ้มกันของเราโดยเฉพาะท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของโรคโดยเฉลี่ยแล้วมนุษย์ต้องการวิตามินซีอยู่ที่ 1,000-3,000 มิลลิกรัมต่อวัน แต่ไม่ใช่ว่าร่างกายจะนำปริมาณวิตามินซีทั้งหมดไปใช้ การดูดซึมนั้นทำได้เพียงแค่ 200-400 มิลลิกรัมต่อครั้ง นั่นหมายความว่าการรับประทานวิตามินซีให้ได้ผลมากที่สุดคือแบ่งเป็นมื้อ ๆ ไป โดยแต่ละมื้อก็รับประทานไปครั้งละ 500 มิลลิกรัม วันละ 2-6 มื้อ และต้องดื่มน้ำตามในปริมาณที่มาก เพราะร่างกายจะได้ดูดซึมไปใช้อย่างอิสระ ข้อที่น่าเป็นห่วงอีกอย่างของการรับประทานวิตามินซีก็คือ การรับประทานที่เยอะเกินไป จะไปส่งผลทำให้เสี่ยงต่อการตกตะกอนและเป็นนิ่วในที่สุด เชื่อมโยงกับค่านิยมการรับประทานวิตามินซีเพื่อผิวขาวในปัจจุบันที่ฮิตมากในหมู่วัยรุ่น แต่กระนั้นวิตามินซีก็เป็นหนึ่งในอาหารที่ร่างกายมนุษย์ต้องการ ใคร ๆ ก็สามารถรับประทานได้
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับวิตามินซี
สื่อออนไลน์ในปัจจุบันมีผลต่อการคิดวิเคราะห์อย่างมากค่านิยมของการมีผิวขาวและวิตามินซีเป็นเรื่องที่ห่างไกลกันมากวิตามินซีไม่สามารถไปลดการเกิดเม็ดสีเมลานินในผิวได้ซึ่งเม็ดสีเมลานินคือตัวบ่งชี้เฉดสีผิวแต่หน้าที่ของวิตามินซีก็คือช่วยในการสร้างเสริมคอลลาเจนและซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสียสภาพให้กลับมาดูดีอีกครั้งทำให้ผิวพรรณของเราดูเนียนใสนุ่มไม่ได้ทำให้ขาวแต่อย่างใดที่สำคัญหากใครต้องออกแดดจัดๆเป็นเวลานานวิตามินซีคือตัวช่วยเรื่องผิวดีที่สุดแต่ถ้าหากใครรับประทานวิตามินซีไปได้ซักระยะแล้วรู้สึกว่าผิวหน้าที่หมองคล้ำกลับมาสดใสอีกครั้งจุดด่างดำรอยสิวจางไปก็ไม่ใช่เรื่องที่แปลกเนื่องจากสาร Antioxidant หรือสารต้านอนุมูลอิสระในวิตามินซี ที่ไปใช้ยับยั้งปฏิกิริยา oxidation บนผิวของเรานั่นเอง
อีกเรื่องที่สร้างความเข้าใจผิดอย่างมากก็คือการดื่มเครื่องดื่มวิตามินซีเข้มข้นจะได้รับประโยชน์แบบจริงๆอย่างที่กล่าวไปว่าวิตามินเป็นสารประกอบที่สลายตัวได้ง่ายมากแม้กระทั่งตั้งไว้กลางแสงแดดหรือการที่มีอากาศเข้าไปบรรจุภัณฑ์เป็นปัจจัยที่สำคัญมากในการเก็บรักษาคุณค่าทางโภชนาการของวิตามินซีฉะนั้นการรับประทานเครื่องดื่มวิตามินซีเข้มข้นพูดได้ไม่เต็มปากว่าเราจะได้ปริมาณวิตามินตามที่โฆษณาไว้บรรจุภัณฑ์ในทางอุตสาหกรรมที่ใช้บรรจุวิตามินซีจริงๆควรเป็นขวดแก้วสีชาสีอำพันและต้องปิดผนึกสนิทข้อแนะนำก็คือควรดื่มให้หมดภายในครั้งแรกที่เปิดก็เพราะว่าการที่เราเปิดฝาดื่มนั้นจะมีก๊าซออกซิเจนเข้าไปในขวดและทำให้วิตามินซีสลายตัวอีกทั้งหากเราต้องการวิตามินซีจริงๆควรมีทางเลือกอื่นๆควบคู่กันไปด้วย
วิตามินกับอาหารเสริม
เชื่อว่าใครหลายๆคนคงจะมีวิตามินซีติดบ้านไว้ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรอย่างมากหากเราสำรวจตามท้องตลาดจะพบว่าวิตามินซีมีอยู่หลายรูปแบบถูกพัฒนาขึ้นมาให้ง่ายต่อการบริโภคของเราไม่ว่าจะเป็นการบริโภควิตามินซีเพียวๆหรือผสมกับอาหารเสริมชนิดอื่นๆและราคาก็แตกต่างกันด้วยตัวแปรในเรื่องราคาก็คือความง่ายในการดูดซึมและสารอาหารอื่นๆที่ทางผู้คิดค้นใส่เข้ามาอาหารเสริมวิตามินซีที่ดีที่สุดต้องประกอบไปด้วยไบโอฟลาโวนอยด์รูตินหรือเกลือซิตรัสเฮาเพอริตินซึ่งองค์ประกอบเหล่านี้คือสิ่งที่ทำให้ร่างกายนำไปใช้ได้ง่ายและรวดเร็วมากที่สุดความน่าสนใจในปัจจุบันนั้นคือการนำเอา Acerola C จากผลอะเซโรลาเบอร์รี่มาสกัดเข้มข้น ซึ่งจุดเด่นก็หนีไม่พ้นในเรื่องของการแตกตัวในน้ำได้ง่ายทำให้การดูดซึมง่ายตามไปด้วย อีกทั้งยังเป็นแหล่งวิตามินซีธรรมชาติ ที่ไม่มีผลเสียต่อร่างกายของเรา
ประโยชน์ที่สำคัญ
เรารับประทานวิตามินซีเพื่อทำให้ร่างกายแข็งแรงฉะนั้นเรามาดูกันว่า 5 ประโยชน์ของวิตามินซีที่เราจะได้รับมีอะไรบ้าง
- ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ เนื่องจากมีสาร Antioxidant ทำให้ไปลดการเกิดริ้วรอย ชะลอความแก่ได้ ทำให้ผิวพรรณสดใส
- เสริมสร้างภูมิคุ้มกันได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดโอกาสในเกิดโรคหวัด ลดอาการภูมิแพ้ได้
- ป้องกันเลือดออกตามไรฟัน
- ช่วยการดูดซึมของธาตุเหล็ก ส่งผลให้ระบบการไหลเวียนเลือดดีมากขึ้น ส่งผลให้ลดโอกาสเส้นเลือดอุดตัน เหมาะสมอย่างมากแก่ผู้ที่เพิ่งทำการผ่าตัดใหญ่มาก หรือต้องการจะฟื้นฟูร่างกาย
- ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเส้นเลือดได้
สรุป
ถึงแม้ว่าการรับประทานวิตามินยังมีข้อกำจัดนิดหน่อยที่เราต้องระวัง แต่ก็ยังดีกว่าการที่เราไม่รับประทานเลย จะเห็นได้ว่าวิตามินซีเปรียบเสมือนตัวเร่งที่ทำให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายของเรา ทำงานได้อย่างลื่นไหล ไม่ติดขัด ดังนั้นเราควรทำให้การรับประทานวิตามินซีเป็นเรื่องปกติ รับประทานบ่อย ๆ ทุกวัน เพื่อให้เรามีสุขภาพที่ดีในระยะยาวนั่นเอง