UC-II

ข้อเข่า รักษาข้อเข่า

UC-II คือ คอลลาเจนชนิดที่ 2 มีชื่อเต็ม ๆ ว่า Undenatured Collagen Type II ถ้าแปลตามตัวจะหมายถึงคอลลาเจนที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างชนิดที่ 2 นั่นเอง ซึ่งหลายคนอาจจะยังไม่คุ้นเคยว่าจริง ๆ คืออะไรกันแน่ ฉะนั้นวันนี้เราจะพาทุกคนมารู้จักกับ UC-II กัน 

UC-II คืออะไร 

ในปัจจุบันเราสามารถจำแนกคอลลาเจนได้ 2 แบบ คือ UC-II หรือ Undenatured Collagen Type II และ Denatured Collagen Type II เกณฑ์ในการจำแนกนั้นมากจากการผลิต โดยที่ UC-II จะใช้การผลิตที่อุณหภูมิต่ำ ไม่มีการใช้เอนไซม์เข้ามาเกี่ยวข้อง จึงทำให้โครงสร้างดั้งเดิมไม่เปลี่ยนแปลงไป แต่กลับกัน Denatured Collagen Type II มีการใช้อุณหภูมิสูง ๆ มาเกี่ยวข้องและใช้เอนไซม์ในการผลิต ทำให้โครงสร้างที่มีอยู่ดั้งเดิมถูกเปลี่ยนแปลงไป UC-II มีลักษณะโครงสร้างที่ใกล้เคียงกับคอลลาเจนที่ร่างกายมนุษย์สามารถผลิตได้ โดยมีโครงสร้างแบบ Tiple Helix Structure ที่สามารถพบในกระดูกอ่อนและหมอนรองกระดูกสันหลัง เพื่อป้องกันการรับแรงกระแทก เมื่อเราเคลื่อนไหวแบบโลดโผน UC-II ยังมีหน้าที่เพิ่มระดับของกรด Hyaluronic ที่เป็นเสมือนอาหารน้ำเลี้ยงในข้อต่อของเรา เพื่อลดอาการปวดกระดูก 

ในทางการแพทย์นั้นจะถือว่า UC-II เป็นพื้นฐานจำเป็นที่ขาดไม่ได้ของกระดูกอ่อนทุกชนิดในร่างกาย โดยเกิดจากคอลลาเจนชนิดที่ 2 และสายโซ่อัลฟ่า สร้างเส้นใยคอลลาเจนไฟบริลลาร์ เพื่อให้กระดูกเกาะหุ้มโปรตีนได้ดีมากขึ้น โดยปกติร่างกายก็จะสามารถสร้างเองได้ มีการศึกษาเพิ่มเติมอีกด้วยว่า UC-II จะไม่ถูกทำลายเด็ดขาด และมีประสิทธิภาพในการรักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์และโรคข้อเข่าเสื่อม ฉะนั้นการรับประทาน UC-II จึงเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่ของนักกีฬาและผู้สูงอายุ เนื่องจากผู้คนเหล่านี้ต้องใช้การเคลื่อนไหวเยอะ จำเป็นต้องมีการกระตุ้นความแข็งแรงของข้อต่อด้วย UC-II

ประโยชน์ของ UC-II

อย่างที่เราทราบกันแล้วว่า UC-II เป็นส่วนประกอบที่สำคัญต่อพวกข้อต่อ กระดูกอ่อนในร่างกาย ดังนั้นสิ่งที่เราต้องรู้ก็คือประโยชน์ของ UC-II ว่ามีอะไรบ้าง เผื่อใครที่กำลังมองหาว่าจะรับประทาน UC-II ยี่ห้อไหนดี จะได้จะตัดสินใจถูก 

  • ทำหน้าที่เชื่อมต่อกระดูก เนื่องจากกระดูกอ่อนเป็นเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน มีความหนาแน่น แต่ยืดหยุ่นได้ ฉะนั้นหากเรามีปริมาณ UC-II ในกระดูกอ่อนเยอะ การเชื่อมต่อของกระดูกแต่ละข้อก็จะแน่น
  • สามารถรับแรงกระแทกแรง ๆ ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในนักกีฬาที่ต้องมีการกระโดด การเคลื่อนไหวแบบหนัก ๆ
  • ช่วยให้กระดูกไม่เกิดการเสียดสีกัน ปัญหานี้ค่อนข้างพบบ่อยในหมู่ผู้สูงวัย พอแก่ตัวไปปริมาณ UC-II ที่มีอยู่ค่อนข้างน้อย ทำให้เนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่ยึดติดเริ่มหลวม จนเวลาเคลื่อนไหวกระดูกเริ่มเข้ามาเสียดสีกัน จนมีอาการปวดร้าวนั่นเอง 
  • ช่วยให้การส่งผ่านอาหารผ่านกระดูกอ่อนมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยปกติแล้วจะมีการส่งผ่านอาหารโดยการแพร่ ซึ่งถ้าหากการส่งผ่านอาหารผ่านกระดูกก่อนไม่เพียงพอ จะไม่มีการซ่อมแซมเซลล์ที่มีชื่อว่า Chondrocyte ขึ้น ทำให้เกิดความแปรปรวน และส่งผลให้หากเราเกิดอุบัติเหตุที่เกี่ยวกับกระดูกจนทำให้เกิดความเสียหาย การฟื้นฟูจะทำได้ช้ามาก ๆ 
  • ช่วยทำให้กระดูกอ่อนเกิดการฟื้นคืนสภาพ เมื่อแก่ตัวไปหลายคนมักจะหาวิธีการยืดอายุกระดูกอ่อน ถ้าหากเราได้รับ UC-II ไม่เพียงพอ กระดูกอ่อนจะเสื่อมสภาพและถึงเวลาที่เราต้องนั่งรถเข็น
  • ลดอาการเจ็บปวดได้ สำหรับคนที่ผ่านการผ่าตัดใหญ่มา

ผลข้างเคียงของ UC-II

ถึงแม้ว่า UC-II ดูเหมือนไม่มีอันตรายอะไร ใคร ๆ ก็สามารถรับประทานได้ แต่มีงานวิจัยได้ออกมาพูดว่า ใน UC-II ประกอบไปด้วย Chondroitin และ Glucosamine เยอะ ซึ่งหากเราบริโภคอาหารเสริม UC-II มากเกินไป อาจจะทำให้เราอาการคลื่นไส้ ท้องเสีย ท้องผูก มีอาการง่วงนอนตลอดทั้งวัน ปวดศีรษะและเกิดอาการคันที่ผิวหนังได้ อย่างไรก็ตามก็ได้มีการเตือนออกมาว่า UC-II ไม่เหมาะกับสตรีมีครรภ์และหญิงให้นมบุตร เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลและการทำวิจัยอย่างชัดเจนว่าปลอดภัย และผู้ที่แพ้ผลิตภัณฑ์จากไก่ ไม่ควรบริโภค UC-II อีกด้วย เนื่องจากจะส่งผลให้เกิดปฏิกิริยาที่ไม่ดีต่อร่างกาย

ปริมาณที่เหมาะสมที่ร่างกายควรจะได้รับ UC-II

การได้รับปริมาณ UC-II ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นสุขภาพ เพศ อายุ รวมไปถึงปัจจัยภายในและภายนอกอื่น ๆ ด้วย มีการทำวิจัยออกมาว่าหากบริโภค UC-II ในปริมาณ 2.5 มิลลิกรัมต่อวัน ต่อเนื่องนาน 24 สัปดาห์ก็สามารถส่งผลเสียต่อร่างกายได้ แต่ผลเสียก็ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายแต่ละคนด้วย ปริมาณการใช้ไม่มีตายตัว ไม่มีสูตรอย่างแน่นอน ซึ่งจริง ๆ แล้วการใช้ UC-II ไม่ได้จำกัดแค่ในมนุษย์เท่านั้น ทว่าในสัตว์ยังมีการใช้อีกด้วย ปริมาณตัวอย่าง UC-II ที่มีการใช้ก็เป็นไปในลักษณะแรนดอมอีกด้วย โดยอ้างอิงจากงานวิจัยของ MDPI ที่มีความน่าสนใจมาก เช่น 

  • มีการใช้ UC-II ปริมาณ 10 มิลลิกรัมต่อวัน นาน 42 วัน ในหญิงสูงวัยที่มีอายุระหว่าง 58-72 ปี เพื่อลดอาการปวดข้อกระดูก
  • มีการใช้ UC-II ปริมาณ 1 มิลลิกรัมต่อวัน นาน 30 วัน ในสุนัข 15 ตัว เพื่อบรรเทาอาการปวดข้ออักเสบและสังเกตการกำเริบของโรค
  • มีการใช้ UC-II ปริมาณ 20-160 มิลลิกรัมต่อวัน นาน 150 วัน ในม้าจำนวน 300 ตัว เพื่อประเมินประสิทธิภาพในการลดความเจ็บปวดของโรคข้ออักเสบ 

สรุป

สรุปเลยว่า UC-II เป็นอาหารเสริมที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยมีบทบาทอะไร แต่จริง ๆ แล้วมีบทบาทสำคัญเลยทีเดียว ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับกระดูกของเราโดยตรง แต่การบริโภคนั้นค่อนข้างมีความเสี่ยง งานวิจัยเรื่องของ UC-II ปัจจุบันก็ยังคงมีน้อย และมีข้อสรุปถึงปริมาณเหมาะสมที่คนธรรมดาทั่วไปสามารถบริโภคได้โดยไม่มีอันตรายก็ไม่ชัดเจน ฉะนั้นทางที่ดีควรมีการปรึกษาแพทย์ทุกครั้งก่อนตัดสินใจบริโภค เพราะอย่างที่บอกไปเลยปริมาณ UC-II กับร่างกายของเรา ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลาย ๆ อย่าง